ScrollFx

powerpoint เรื่องประเภทรายการโทรทัศน์ ตอนที่ 3

powerpoint เรื่องประเภทรายการโทรทัศน์ ตอนที่ 2

powerpoint เรื่องประเภทรายการโทรทัศน์ ตอนที่ 1

แบบฝึกหัดเรื่องประเภทรายการโทรทัศน์

แบบฝึกหัดเรื่องประเภทรายการโทรทัศน์ ชุดที่ 2

30.4.52

TV Genre


เอกสารประกอบการสอน
บทที่
2
ตอนที่
3



วิชาวิทยุฯ
และโทรทัศน์เบื้องต้น
(RT201)
คณะนิเทศศาสตร์
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์









ประเภทรายการโทรทัศน์





สรุปและเรียบเรียงโดย
อาจารย์สุดถนอม
รอดสว่าง






นักสื่อสารมวลชนมักใช้คำว่า
Genres”
เพื่อใช้เรียกประเภทรายการโทรทัศน์
ซึ่งเป็นคำศัพท์ในภาษาฝรั่งเศสที่มีความหมายตรงกับคำว่า
type”
และ
kind”
ในภาษาอังกฤษ
โดยนิยมใช้คำว่า
Genres”
มากกว่า
การวิเคราะห์ประเภทรายการ
(Genres
Analysis)
นั้น
กล่าวได้ว่าเป็นการวิเคราะห์ที่รูปแบบของรายการ
(Format)
โดยคุณลักษณะ
(Attribute)
ต่างๆ
ที่พบในรายการจะเป็นตัวอธิบายให้เข้าใจว่ารายการโทรทัศน์ที่เราดูอยู่นั้น
คือรายการประเภทใด



คุณลักษณะที่กล่าวถึงนี้
ยกตัวอย่างเช่น
ช่วงเวลานำเสนอรายการ
วิธีการเล่าเรื่อง
ฉาก ดนตรี พิธีกร
แขกรับเชิญ
ผู้ชม บทสนทนาหรือเนื้อหารายการ
แสง ไตเติ้ลรายการ
หรือแม้กระทั่งผู้สนับสนุนรายการ
ฯลฯ การรู้วิธีแบ่งประเภทรายการนั้น
เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับผู้ผลิตรายการโทรทัศน์

เพราะผู้ผลิตจะสามารถนำเสนอรูปแบบและเนื้อหาให้สอดคล้องสัมพันธ์กันอย่างดีและดึงดูดใจผู้รับสาร



ปัจจุบัน
การแบ่งประเภทรายการทำได้ยาก
เนื่องจากแต่ละรายการมีความซับซ้อน
มีคุณลักษณะที่หลากหลาย
สามารถนำมาวิเคราะห์ประเภทได้หลากวิธี
ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้กฎเกณฑ์ใดเป็นตัวกำหนดประเภทรายการ
โดยอาจแบ่งประเภทรายการตามกลุ่มผู้ชม
แบ่งตามช่วงเวลาที่ออกอากาศในแต่ละวัน
หรือ แบ่งตามประเภทของเนื้อหารายการ
เป็นต้น






การแบ่งประเภทรายการตามกลุ่มผู้ชม






การแบ่งประเภทรายการตามกลุ่มผู้ชม
อาจแบ่งได้ตามอายุ
เพศ อาชีพ หรือ
ฐานะทางเศรษฐกิจ
การศึกษา
และถิ่นที่อยู่อาศัยของผู้ชม
อย่างไรก็ดี
รายการโทรทัศน์ส่วนใหญ่ในสถานีฟรีทีวี
มักเสนอรายการให้กับผู้ชมกลุ่มใหญ่
มากกว่าจะเป็นรายการที่เฉพาะเจาะจงกลุ่มผู้ชมกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ
แต่ใช้วิธีการกำหนดประเภทของรายการตามกลุ่มผู้ชม
ในช่วงเวลาต่างๆ
ของผังรายการตามความเหมาะสม
เช่น จัดรายการสำหรับเด็ก
ไว้ในตอนบ่าย
– เย็น และช่วงเช้าวันเสาร์
-
อาทิตย์
จัดรายการสำหรับผู้หญิง
หรือแม่บ้าน
ไว้ตอนสาย บ่าย
หรือค่ำ
ส่วนรายการโทรทัศน์ในสถานีโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกนั้นจะเห็นได้ว่า
จะกำหนดเนื้อหารายการของแต่ละสถานีตามกลุ่มผู้ชม
และความสนใจเนื้อหารายการด้านนั้นๆ
โดยเฉพาะ เช่น
ช่องการ์ตูนสำหรับเด็ก
ช่องกีฬา ช่องข่าว
ช่องดนตรี
ช่องแฟชั่น
ช่องภาพยนตร์
และช่องสารคดี





การแบ่งประเภทรายการตามช่วงเวลาที่ออกอากาศในแต่ละวัน






การแบ่งประเภทรายการตามช่วงเวลาที่ออกอากาศในแต่ละวัน
นั้นอาจแบ่งช่วงเวลาออกเป็นส่วน
ๆ ส่วนละ
1
– 3
ชั่วโมง
เช่น


ช่วงเช้ามืด 04.00
– 06.00
.


ช่วงเช้า 06.00
– 08.00
.


ช่วงสาย 08.00
– 10.00
.


ช่วงก่อนเที่ยง 10.00
– 12.00
.


ช่วงเที่ยง 12.00
– 13.00
.


ช่วงบ่าย 13.00
– 15.00
.


ช่วงบ่าย
– เย็น
15.00
– 18.00
.


ช่วงเย็น 18.00
– 19.00
.


ช่วงไพรม์ไทม์
(Prime
time) 19.00 – 22.00
.


ช่วงดึก 22.00
– 24.00
.


ช่วงหลังเที่ยงคืน 24.00
– 02.00
.


ช่วงหลังตีสอง
– เช้ามืด
02.00
– 04.00
.





การแบ่งประเภทรายการตามประเภทของเนื้อหารายการ






ส่วนใหญ่การแบ่งประเภทรายการโทรทัศน์จะแบ่งตามประเภทของเนื้อหาสาระ
(Genres)
ทำให้สะดวกสำหรับผู้ผลิต
ผู้จัดรายการ
และผู้ชม
ในการสื่อสารทำความเข้าใจว่ารายการแต่ละประเภทมีลักษณะอย่างไร
มีความยาวเท่าไร
มีแนวการผลิตแบบไหน
เป็นต้น ลองนึกเล่นๆ
ว่า เปิดโทรทัศน์แล้วเห็นภาพเด็กชายอายุประมาณ
10
ปี
สวมเสื้อยืดเก่าๆ
เดินขายพวงมาลัยบริเวณสี่แยกไฟแดง
รายการที่เราดูนี้อาจเป็นละครโทรทัศน์
หรืออาจจะเป็นสารคดีที่แสดงภาพเหตุการณ์จริงในสังคมก็เป็นได้
กล่าวได้ว่าภาพ
1
ภาพ
ที่ปรากฏในโทรทัศน์นั้น
อาจจะตีความได้แตกต่างกันออกไป
ภาพที่เห็นจะเป็นรายการประเภทละคร
สารคดี หรือ
ข่าว นั้น
จึงขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้นำเสนอเรื่องราว
และเนื้อหาที่นำเสนอเป็นแบบใด



Whannel
(1992) (
อ้างในกาญจนา
แก้วเทพ
,
การวิเคราะห์สื่อแนวคิดและเทคนิค)
ได้กำหนดเกณฑ์ในการแบ่งประเภทของรายการโทรทัศน์ออกเป็น
3
ประเภท
คือ










1.
รายการประเภทที่เป็นเรื่องจริงและมีเนื้อหาสาระ
(Non-Fiction
/ Journalistic)






หลักเกณฑ์ในการทำงานของรูปแบบนี้จะต้องเน้นความเป็นกลาง
ไม่ลำเอียง
สมดุล และถูกต้องเป็นสำคัญ
ภาพและเสียงที่ปรากฏได้แสดงเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในโลก
เช่น
เหตุการณ์ผู้คนเสียชีวิตหลายพันคนจากภัยสึนามิ
รายการประเภทนี้
ได้แก่






1.1
รายการข่าวและวิเคราะห์ข่าว
(News
and Current Affairs)



คุณลักษณะสำคัญของรายการประเภทข่าว
คือ นำเสนอเหตุการณ์จริง
มีพยานหลักฐานยืนยัน
อย่างไรก็ตาม
รายการประเภทข่าวได้มีการพัฒนาจากอดีตถึงปัจจุบัน
จะเห็นได้ว่า
ในปัจจุบันนี้
รายการข่าวได้นำมิติความบันเทิงเข้ามาสอดแทรกด้วย
โดยเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการรายงานข่าว
จากเดิมที่ผู้ประกาศข่าวทำหน้าที่อ่านข่าวเพียงอย่างเดียว
มาเป็นลักษณะการเล่าข่าว
ที่ผู้ประกาศสามารถนำเสนอข่าวด้วยลีลาเป็นกันเองกับผู้ชมทางบ้าน
รายการข่าวที่มีลักษณะเล่าข่าว
หรือสนทนาข่าวที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน
ได้แก่ รายการเรื่องเล่าเช้านี้
ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง
3
นอกจากนี้
รายการข่าวในปัจจุบันจะมีการรายงานพิเศษประกอบข่าวและเนื้อหาข่าวที่มีความเป็นอิสระมากขึ้น
เนื้อหาข่าวอาจแบ่งออกเป็นข่าวเกษตรกร
ข่าวพยากรณ์อากาศ
ข่าวบันเทิง
ข่าวสังคมธุรกิจ
ข่าวอาชญากรรม
ข่าวศิลปวัฒนธรรม
เป็นต้น






1.2
รายการสารคดี
(Feature
and Documentary)



เป็นรายการที่นำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง
โดยนำเสนอเนื้อหาสาระด้วยภาพ
เสียงบรรยาย
และอาจมีการสัมภาษณ์พยานหรือบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์
มักจะนำเสนอประเด็นทางสังคม
การเมืองและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์
ศิลปวัฒนธรรม
ประวัติศาสตร์
การท่องเที่ยว
ฯลฯ กล่าวได้ว่ารายการสารคดีเป็นรายการที่ต้องใช้เวลา
งบประมาณ
และความพิถีพิถันในการผลิตอย่างมาก






1.3
รายการถ่ายทอดสด
(
Live)



เป็นการถ่ายทอดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในขณะนั้น
เช่น ถ่ายทอดกีฬา
โดยมีผู้บรรยายถ่ายทอดเรื่องราวตลอด
หากการถ่ายทอดสดนั้นสามารถเตรียมการก่อนได้
เช่น การถ่ายทอดสดพระราชพิธีต่างๆ
ผู้บรรยายควรเตรียมข้อมูลเรื่องราวที่สามารถอธิบายเชื่อมโยงเหตุการณ์ให้ผู้ชมได้ทราบความเป็นมา
ประกอบกับการนำเสนอภาพได้






1.4
รายการนิตยสารทางโทรทัศน์
(
Magazine)



รายการประเภทนี้กำลังเป็นที่นิยม
จะนำเสนอรายการที่เน้นความหลากหลายของประเด็นเรื่องราวที่นำเสนอ
แบ่งเป็นช่วง
โดยเนื้อหาของแต่ละช่วงอาจเป็นอิสระต่อกัน
แต่ต้องเป็นเรื่องราวที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ชมโดยตรง
กลุ่มผู้ชมเป้าหมายของรายการจะมีลักษณะเป็นกลุ่มเฉพาะ
เช่น รายการเปรี้ยวปาก





2.
รายการประเภทที่เป็นเรื่องแต่งขึ้นแบบละคร
(Fiction
/ Dramatic)






หลักการทำงานของรูปแบบนี้จะเป็นเรื่องแต่ง
และการเล่าเรื่อง
เหมือนเป็นการสร้างโลกที่คล้ายคลึงกับโลกที่เราอาศัยอยู่
การยอมรับของรูปแบบรายการประเภทนี้
ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ใช้ตัดสินคุณภาพของการทำเป็นละคร
เช่น บทประพันธ์
การแสดง ฉาก
ฯลฯ



หากแบ่งประเภทละครตามวิธีการจัดลำดับตอน
สามารถแบ่งประเภทได้
ดังนี้






2.1
ละคร
Drama
Special



ละครประเภทนี้เป็นละครประเภทพิเศษที่เล่นในวาระโอกาสพิเศษต่างๆ
เช่น วันแม่
วันที่ระลึกของหน่วยงานต่างๆ
ละครการกุศล
ลักษณะละครแบบนี้จะเป็นละครสั้นจบในตอนเดียว
มักใช้เวลาประมาณ
1
– 2
ชั่วโมง






2.2
ละคร
Series



ละคะ
Series
เป็นละครสั้นๆ
เล่นแต่ละครั้งจะจบในเวลา
30
– 60
นาที
แต่จะออกอากาศเป็นประจำ
จะใช้ตัวละครเดียวกันและฉากเดิมในทุกตอน
ทำให้ผู้ชมรู้จักนิสัยใจคอของตัวละคร
สภาพครอบครัว
เพื่อนสนิท
จะสร้างแต่ละตอนด้วยพื้นฐานแนวเดียวกัน
แต่เรื่องราวจะเปลี่ยนไป






2.3
ละคร
Serials



ละครประเภทนี้เป็นละครเรื่องยาวที่เล่นหลายตอนจบ
ประมาณ
20
– 30
ตอน
เนื้อเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องเดียวกัน

ผู้แสดงเป็นชุดเดียวกัน
โดยเนื้อหาวนเวียนอยู่กับเรื่องบทบาททางเพศและความสัมพันธ์ระหว่างเพศ
อาจมีอารมณ์หลากหลายทั้งความรัก
ความแค้น และความทุกข์
การนำเสนอเรื่องราวนั้นจะพยายามทำให้ดูสมจริง
มีเหตุมีผล
ทั้งๆ ที่เนื้อเรื่องไม่ใช่เรื่องจริง
การพัฒนาตัวละครจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
และออกอากาศเป็นประจำ
ละครแบบนี้รู้จักในชื่อของ
Soap
Opera







ในขณะที่ละครประเภทอื่นแบ่งประเภทเพราะวิธีการจัดลำดับตอน
ละคร
Sit-com
(Situation Comedy)

กลับมีความแตกต่างจากละครประเภทอื่นทั้งในแง่รูปแบบและเนื้อหา
โดยละคร
Sit-com
เป็นละครแนวสนุกสนานมีลักษณะล้อเลียนสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น
รูปแบบการนำเสนอที่แตกต่างจะละครประเภทอื่น
คือ ใช้รูปแบบที่ไม่สมจริง
Overact
ทั้งๆ
ที่เนื้อหาที่หยิบมานำเสนอมีพื้นฐานความเป็นจริง
ส่วนเนื้อหานั้นจะมีความหลากหลาย
มีความสัมพันธ์หลายรูปแบบ
หลายกลุ่มคน
และมีอารมณ์แบบขบขันเป็นพื้นฐาน
แม้ว่าจะมีอารมณ์อื่นๆ
แทรกเข้ามาก็ตาม
อย่างไรก็ตาม
หากมองวิธีการจัดลำดับตอนแล้ว
ละคร
Sit
– com
จะเป็นละครจบในแต่ละตอน
เหมือนละคร
Series
เนื่องจากใช้ตัวละครชุดเดียวกันและดำเนินเรื่องเร็วเพื่อให้จบได้ภายในเวลาที่กำหนดไว้อย่างสั้นๆ






3.
รายการประเภทให้ความบันเทิงแบบ
Light
Entertainment



เป็นกระบวนการทำงานที่ต้องการมาตรฐานความเป็นมืออาชีพ
ทั้งทางเทคนิคและความเชี่ยวชาญในการทำรายการ
เพื่อให้ได้รายการที่น่าสนใจ
อาจมีการนำเอาตัวบุคคลที่สังคมรู้จัก
สนใจ หรือดารามานำเสนอเรื่องราวแบบต่างๆ
ที่ดึงดูดความสนใจของผู้ชมทุกระดับ
ได้แก่






3.1
รายการเกมโชว์
และแข่งขันตอบปัญหา

(Game
and Quiz Show)



รายการประเภทนี้เป็นรายการที่มีกิจกรรมเพื่อให้คนหรือกลุ่มคนได้ใช้ทักษะทางร่างกายหรือความสามารถทางสติปัญญา
และแสดงความสามารถนั้นออกมา
โดยเป็นการแข่งขันกันระหว่าง
2
ฝ่ายขึ้นไป
ภายใต้กฎหรือกติกาตามที่ตกลงกันไว้
หากฝ่ายใดชนะจะได้รับรางวัล
ส่วนผู้แพ้จะได้รับรางวัลปลอบใจหรือถูกคัดออก
บริษัทที่มีชื่อเสียงในการผลิตรายการประเภทนี้ในประเทศไทย
ได้แก่
บริษัทเวอร์คพอยท์เอ็นเตอร์เทนเมนต์





3.2
รายการปกิณกะบันเทิงหรือวาไรตี้
(Variety
)



รายการปกิณกะบันเทิงหรือรายการวาไรตี้
เป็นรายการที่รวบรวมความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ
เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้ชมเป้าหมายที่หลากหลาย
ซึ่งมีความสนใจในการชมแตกต่างกันออกไป
รูปแบบรายการจะมีทั้งการแสดงดนตรี
ร้องเพลง ละครสั้น
เกม สาธิต
สนทนาและสัมภาษณ์ผู้ร่วมรายการ
หรือการแสดงอื่นๆ
อยู่ในรายการ
มีพิธีกรเป็นผู้ดำเนินรายการและสร้างสีสันให้กับรายการ





3.3
รายการสนทนา
(Talk)



รายการสนทนาเป็นรายการที่มีผู้พูดคุยกัน
2
คนขึ้นไป
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและซักถามซึ่งกันและกัน
เหตุที่รายการสนทนาได้รับความนิยม
เนื่องจากเป็นรายการที่ผู้ชมได้เห็นสีหน้า
อารมณ์ ความรู้สึกของผู้สนทนา
ส่วนใหญ่แขกรับเชิญที่มาร่วมสนทนาจะเป็นผู้ที่มีชื่อเสียง
เป็นที่รู้จักในสังคม
ความสำเร็จของรายการขึ้นอยู่กับความสามารถของพิธีกรที่จะนำการสนทนาให้ราบรื่น
ไม่วกวน





อย่างไรก็ตาม
จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันรายการโทรทัศน์ใหม่ๆ
จะมีการผสมผสานคุณลักษณะและเอกลักษณ์ของรายการแต่ละประเภทเข้าด้วยกัน
เป็นลักษณะ
รายการลูกผสม
(Hybrid
programme)
เช่น
รายการสารคดีประเภท
Docudrama
รายการประเภทนี้เป็นการผสมลักษณะของรายการประเภทสารคดีที่นำเสนอเรื่องราวเหตุการณ์จริงแต่มีลักษณะการดำเนินเรื่องคล้ายละคร
หรือ
รายการเรียลลิตี้โชว์
(Reality
show)
ซึ่งเป็นรูปแบบรายการโทรทัศน์แนวใหม่ที่กำลังนิยมทั่วโลก
เป็นรายการที่นำเสนอความจริงที่เกิดขึ้นในรายการ
ในขณะที่การกระทำของผู้เข้าร่วมรายการที่แสดงปฏิกิริยาออกมาในรูปแบบที่ต่างกัน
ตั้งแต่ดีใจ
รักใคร่ จนถึงทะเลาะเบาะแว้ง
ตกใจหวาดกลัว
หรือ ผิดหวังเสียใจ
โดยเฉพาะธาตุแท้ทางอารมณ์ของแต่ละบุคคล
เมื่อประสบกับสถานการณ์หรือสิ่งเร้าที่ถูกสร้างขึ้นในรายการนั้น
เหมือนกับตัวละครที่เล่นไปตามบทละครโทรทัศน์
และการแข่งขันที่ดุเดือดเพื่อชิงรางวัลใหญ่ประเภทแพ้คัดลอกนั้น
ก็สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะของรายการเกมโชว์ได้เป็นอย่างดี
อาจกล่าวได้ว่ารายการเรียลลิตี้โชว์
นั้นเป็นตัวอย่างสำคัญของรายการลูกผสมที่สะท้อนให้เห็นประเภทรายการโทรทัศน์ทั้งรายการประเภทที่เป็นเรื่องจริงและมีเนื้อหาสาระ
(Non-Fiction
/ Journalistic)
รายการประเภทที่เป็นเรื่องแต่งขึ้นแบบละคร
(Fiction
/ Dramatic)
และรายการประเภทให้ความบันเทิงแบบ
Light
Entertainment
ได้อย่างลงตัว










บรรณานุกรม





Creeber
Glen, The television genre book. bfi, 2001.


Jost
Francois, Introduction a l’analyse de la television.
Ellipses, 1999.


กาญจนา
แก้วเทพ
.
การวิเคราะห์สื่อแนวคิดและเทคนิค.
2547.


สื่อสารมวลชนเบื้องต้น
สื่อมวลชน
วัฒนธรรมและสังคม


ปนัดดา
ธนสถิต
(2531)
ละครโทรทัศน์ไทย,
คณะนิเทศศาสตร์
จุฬาฯ
.


อุษา
บิ้กกิ้นส์
.
เอกสารคำสอนวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์
RT201.



22.4.52

นวัตกรรม web 2.0 ที่ติดตั้ง

เรียนอาจารย์วรสรวง

นวัตกรรม web 2.0 ที่นำมาใช้เพื่อเสริมการเรียนการสอนของผม มีหลายตัวครับ ขออนุญาตเป็น 3 กลุ่มนะครับ

กลุ่มที่ 1 เป็นนวัตกรรมเพื่อการติดต่อสื่อสารครับ ScrollFx, Easy Comments, contact us, Shoutmix ทั้งนี้ใช้เพื่อเป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารระหว่างผมกับนักศึกษานิเทศอันแสนจะมากเรื่องของผมครับ (ปกติจะใช้ hi5 เป็นตัวเชื่อมหลักครับ) โดย

ScrollFx จะใช้เพื่อประกาศข้อความสำคัญไปยังนักศึกษา (คล้าย สถานะ ใน hi5)

Easy Comments, contact us, Shoutmix จะให้นักศึกษาฝากข้อความถึงเราได้ (คล้าย การ comment ใน hi5)

กลุ่มที่ 2 จะเป็นสื่อสารมวลชนต่างๆ ที่มีไว้เพื่อเปิดโลกทัศน์ นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ของผมครับ ได้แก่FreeiRadio, tv online

กลุ่มที่ 3 จะเป็นกลุ่มข่าวครับ เพราะผมสอนวิชาการเขียนและการรายงานข่าวครับ ดังนั้นการรู้เท่าทันข่าวสาร เพื่อหาประเด็นที่จะออกไปทำข่าว เป็นเรื่องที่จำเป็นมากสำหรับนักศึกษา การที่เห็นข่าวมากมายเต็ม Blog ของอาจารย์ก็จะเป็นการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้วิชานี้เป็นอย่างดีครับ ได้ rss (NEWS), CNN.com, The Time, RSS Widget, Toutube (ที่สามารถนำ Clip VDO ภาพข่าวที่ดีมาเป็นตัวอย่างให้นักศึกษาดูได้)

ทั้งหมดนี้เป็นเท่าที่คนทำ Blog ครั้งแรกอย่างผมจะนึกออกครับ แต่จะพยายามสรรหามาเพิ่มเติมต่อไปครับ

17.4.52

สวัสดีครับ


สวัสดีนักศึกษา DPU ที่รักทุกคนครับ

Easy Comments

contact us

cc

Creative Commons License
blog of Ajarn A โดย Sivanart Hongprayoon อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย.
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ siwanard.blogspot.com.
การอนุญาตนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในสัญญาอนุญาตนี้ อาจมีอยู่ที่ http://siwanard.blogspot.com/