เอกสารประกอบการสอน
บทที่ 2
ตอนที่
3
วิชาวิทยุฯ
และโทรทัศน์เบื้องต้น
(RT201)
คณะนิเทศศาสตร์
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
ประเภทรายการโทรทัศน์
สรุปและเรียบเรียงโดย
 อาจารย์สุดถนอม
 รอดสว่าง
นักสื่อสารมวลชนมักใช้คำว่า
“Genres”
เพื่อใช้เรียกประเภทรายการโทรทัศน์
ซึ่งเป็นคำศัพท์ในภาษาฝรั่งเศสที่มีความหมายตรงกับคำว่า
“type”
และ
“kind”
ในภาษาอังกฤษ
โดยนิยมใช้คำว่า
“Genres”
มากกว่า
 การวิเคราะห์ประเภทรายการ
(Genres
Analysis) นั้น
กล่าวได้ว่าเป็นการวิเคราะห์ที่รูปแบบของรายการ
(Format)
โดยคุณลักษณะ
(Attribute)
ต่างๆ
ที่พบในรายการจะเป็นตัวอธิบายให้เข้าใจว่ารายการโทรทัศน์ที่เราดูอยู่นั้น
คือรายการประเภทใด
คุณลักษณะที่กล่าวถึงนี้
 ยกตัวอย่างเช่น
ช่วงเวลานำเสนอรายการ
 วิธีการเล่าเรื่อง
 ฉาก  ดนตรี  พิธีกร
 แขกรับเชิญ
 ผู้ชม  บทสนทนาหรือเนื้อหารายการ
 แสง  ไตเติ้ลรายการ
 หรือแม้กระทั่งผู้สนับสนุนรายการ
ฯลฯ   การรู้วิธีแบ่งประเภทรายการนั้น
เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับผู้ผลิตรายการโทรทัศน์
เพราะผู้ผลิตจะสามารถนำเสนอรูปแบบและเนื้อหาให้สอดคล้องสัมพันธ์กันอย่างดีและดึงดูดใจผู้รับสาร
ปัจจุบัน
 การแบ่งประเภทรายการทำได้ยาก
 เนื่องจากแต่ละรายการมีความซับซ้อน
 มีคุณลักษณะที่หลากหลาย
สามารถนำมาวิเคราะห์ประเภทได้หลากวิธี
 ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้กฎเกณฑ์ใดเป็นตัวกำหนดประเภทรายการ
โดยอาจแบ่งประเภทรายการตามกลุ่มผู้ชม
 แบ่งตามช่วงเวลาที่ออกอากาศในแต่ละวัน
 หรือ แบ่งตามประเภทของเนื้อหารายการ
เป็นต้น
การแบ่งประเภทรายการตามกลุ่มผู้ชม
การแบ่งประเภทรายการตามกลุ่มผู้ชม
อาจแบ่งได้ตามอายุ
เพศ อาชีพ หรือ
ฐานะทางเศรษฐกิจ
การศึกษา
และถิ่นที่อยู่อาศัยของผู้ชม
 อย่างไรก็ดี
 รายการโทรทัศน์ส่วนใหญ่ในสถานีฟรีทีวี
มักเสนอรายการให้กับผู้ชมกลุ่มใหญ่
 มากกว่าจะเป็นรายการที่เฉพาะเจาะจงกลุ่มผู้ชมกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ
 แต่ใช้วิธีการกำหนดประเภทของรายการตามกลุ่มผู้ชม
ในช่วงเวลาต่างๆ
ของผังรายการตามความเหมาะสม
เช่น จัดรายการสำหรับเด็ก
ไว้ในตอนบ่าย
– เย็น และช่วงเช้าวันเสาร์-
อาทิตย์
จัดรายการสำหรับผู้หญิง
หรือแม่บ้าน
ไว้ตอนสาย บ่าย
หรือค่ำ
ส่วนรายการโทรทัศน์ในสถานีโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกนั้นจะเห็นได้ว่า
จะกำหนดเนื้อหารายการของแต่ละสถานีตามกลุ่มผู้ชม
และความสนใจเนื้อหารายการด้านนั้นๆ
โดยเฉพาะ เช่น
ช่องการ์ตูนสำหรับเด็ก
 ช่องกีฬา  ช่องข่าว
 ช่องดนตรี 
ช่องแฟชั่น
 ช่องภาพยนตร์
 และช่องสารคดี
การแบ่งประเภทรายการตามช่วงเวลาที่ออกอากาศในแต่ละวัน
การแบ่งประเภทรายการตามช่วงเวลาที่ออกอากาศในแต่ละวัน
นั้นอาจแบ่งช่วงเวลาออกเป็นส่วน
ๆ ส่วนละ 1
– 3 ชั่วโมง
 เช่น
ช่วงเช้ามืด	04.00
– 06.00 น.
ช่วงเช้า		06.00
– 08.00 น.
ช่วงสาย		08.00
– 10.00 น.
ช่วงก่อนเที่ยง	10.00
– 12.00 น.
ช่วงเที่ยง	12.00
– 13.00 น.
ช่วงบ่าย		13.00
– 15.00 น.
ช่วงบ่าย
– เย็น	15.00
– 18.00 น.
ช่วงเย็น		18.00
– 19.00 น.
ช่วงไพรม์ไทม์
(Prime
time)	19.00 – 22.00 น.
ช่วงดึก				22.00
– 24.00 น.
ช่วงหลังเที่ยงคืน			24.00
– 02.00 น.
ช่วงหลังตีสอง
– เช้ามืด		02.00
– 04.00 น.
การแบ่งประเภทรายการตามประเภทของเนื้อหารายการ
ส่วนใหญ่การแบ่งประเภทรายการโทรทัศน์จะแบ่งตามประเภทของเนื้อหาสาระ
(Genres)
 ทำให้สะดวกสำหรับผู้ผลิต
 ผู้จัดรายการ
 และผู้ชม
ในการสื่อสารทำความเข้าใจว่ารายการแต่ละประเภทมีลักษณะอย่างไร
 มีความยาวเท่าไร
 มีแนวการผลิตแบบไหน
 เป็นต้น ลองนึกเล่นๆ
ว่า เปิดโทรทัศน์แล้วเห็นภาพเด็กชายอายุประมาณ
10
ปี
สวมเสื้อยืดเก่าๆ
เดินขายพวงมาลัยบริเวณสี่แยกไฟแดง
 รายการที่เราดูนี้อาจเป็นละครโทรทัศน์
หรืออาจจะเป็นสารคดีที่แสดงภาพเหตุการณ์จริงในสังคมก็เป็นได้
กล่าวได้ว่าภาพ
1
ภาพ
ที่ปรากฏในโทรทัศน์นั้น
 อาจจะตีความได้แตกต่างกันออกไป
ภาพที่เห็นจะเป็นรายการประเภทละคร
สารคดี หรือ
ข่าว นั้น
จึงขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้นำเสนอเรื่องราว
และเนื้อหาที่นำเสนอเป็นแบบใด
 Whannel
(1992) (อ้างในกาญจนา
แก้วเทพ,
การวิเคราะห์สื่อแนวคิดและเทคนิค)
ได้กำหนดเกณฑ์ในการแบ่งประเภทของรายการโทรทัศน์ออกเป็น
3
ประเภท
คือ
1.
รายการประเภทที่เป็นเรื่องจริงและมีเนื้อหาสาระ
(Non-Fiction
/ Journalistic) 
หลักเกณฑ์ในการทำงานของรูปแบบนี้จะต้องเน้นความเป็นกลาง
ไม่ลำเอียง
สมดุล และถูกต้องเป็นสำคัญ
ภาพและเสียงที่ปรากฏได้แสดงเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในโลก
เช่น
เหตุการณ์ผู้คนเสียชีวิตหลายพันคนจากภัยสึนามิ
 รายการประเภทนี้
ได้แก่ 
1.1
รายการข่าวและวิเคราะห์ข่าว
(News
and Current Affairs)  
คุณลักษณะสำคัญของรายการประเภทข่าว
คือ นำเสนอเหตุการณ์จริง
 มีพยานหลักฐานยืนยัน
อย่างไรก็ตาม
รายการประเภทข่าวได้มีการพัฒนาจากอดีตถึงปัจจุบัน
จะเห็นได้ว่า
ในปัจจุบันนี้
รายการข่าวได้นำมิติความบันเทิงเข้ามาสอดแทรกด้วย
โดยเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการรายงานข่าว
จากเดิมที่ผู้ประกาศข่าวทำหน้าที่อ่านข่าวเพียงอย่างเดียว
 มาเป็นลักษณะการเล่าข่าว
ที่ผู้ประกาศสามารถนำเสนอข่าวด้วยลีลาเป็นกันเองกับผู้ชมทางบ้าน
 รายการข่าวที่มีลักษณะเล่าข่าว
หรือสนทนาข่าวที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน
ได้แก่ รายการเรื่องเล่าเช้านี้
ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง
3
นอกจากนี้
รายการข่าวในปัจจุบันจะมีการรายงานพิเศษประกอบข่าวและเนื้อหาข่าวที่มีความเป็นอิสระมากขึ้น
 เนื้อหาข่าวอาจแบ่งออกเป็นข่าวเกษตรกร
 ข่าวพยากรณ์อากาศ
 ข่าวบันเทิง
 ข่าวสังคมธุรกิจ
 ข่าวอาชญากรรม
 ข่าวศิลปวัฒนธรรม
เป็นต้น
1.2
รายการสารคดี
 (Feature
and Documentary)
เป็นรายการที่นำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง
โดยนำเสนอเนื้อหาสาระด้วยภาพ
เสียงบรรยาย
และอาจมีการสัมภาษณ์พยานหรือบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์
 มักจะนำเสนอประเด็นทางสังคม
 การเมืองและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์
 ศิลปวัฒนธรรม
 ประวัติศาสตร์
การท่องเที่ยว
ฯลฯ กล่าวได้ว่ารายการสารคดีเป็นรายการที่ต้องใช้เวลา
งบประมาณ
และความพิถีพิถันในการผลิตอย่างมาก
1.3
รายการถ่ายทอดสด
(
Live)
เป็นการถ่ายทอดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในขณะนั้น
 เช่น  ถ่ายทอดกีฬา
 โดยมีผู้บรรยายถ่ายทอดเรื่องราวตลอด
หากการถ่ายทอดสดนั้นสามารถเตรียมการก่อนได้
เช่น การถ่ายทอดสดพระราชพิธีต่างๆ
ผู้บรรยายควรเตรียมข้อมูลเรื่องราวที่สามารถอธิบายเชื่อมโยงเหตุการณ์ให้ผู้ชมได้ทราบความเป็นมา
ประกอบกับการนำเสนอภาพได้
1.4
รายการนิตยสารทางโทรทัศน์
(
Magazine)
รายการประเภทนี้กำลังเป็นที่นิยม
จะนำเสนอรายการที่เน้นความหลากหลายของประเด็นเรื่องราวที่นำเสนอ
แบ่งเป็นช่วง
โดยเนื้อหาของแต่ละช่วงอาจเป็นอิสระต่อกัน
แต่ต้องเป็นเรื่องราวที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ชมโดยตรง
 กลุ่มผู้ชมเป้าหมายของรายการจะมีลักษณะเป็นกลุ่มเฉพาะ
 เช่น รายการเปรี้ยวปาก
2.
 รายการประเภทที่เป็นเรื่องแต่งขึ้นแบบละคร
(Fiction
/ Dramatic)  
หลักการทำงานของรูปแบบนี้จะเป็นเรื่องแต่ง
และการเล่าเรื่อง
เหมือนเป็นการสร้างโลกที่คล้ายคลึงกับโลกที่เราอาศัยอยู่
การยอมรับของรูปแบบรายการประเภทนี้
ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ใช้ตัดสินคุณภาพของการทำเป็นละคร
เช่น บทประพันธ์
 การแสดง  ฉาก
 ฯลฯ  
หากแบ่งประเภทละครตามวิธีการจัดลำดับตอน
 สามารถแบ่งประเภทได้
ดังนี้
2.1
ละคร
Drama
Special
ละครประเภทนี้เป็นละครประเภทพิเศษที่เล่นในวาระโอกาสพิเศษต่างๆ
เช่น วันแม่
วันที่ระลึกของหน่วยงานต่างๆ
ละครการกุศล
 ลักษณะละครแบบนี้จะเป็นละครสั้นจบในตอนเดียว
มักใช้เวลาประมาณ
1
– 2 ชั่วโมง
2.2
ละคร
Series
ละคะ
Series
เป็นละครสั้นๆ
เล่นแต่ละครั้งจะจบในเวลา
30
– 60 นาที
แต่จะออกอากาศเป็นประจำ
จะใช้ตัวละครเดียวกันและฉากเดิมในทุกตอน
ทำให้ผู้ชมรู้จักนิสัยใจคอของตัวละคร
สภาพครอบครัว
เพื่อนสนิท
จะสร้างแต่ละตอนด้วยพื้นฐานแนวเดียวกัน
แต่เรื่องราวจะเปลี่ยนไป
2.3
ละคร
Serials
ละครประเภทนี้เป็นละครเรื่องยาวที่เล่นหลายตอนจบ
ประมาณ 20
– 30 ตอน
เนื้อเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องเดียวกัน
ผู้แสดงเป็นชุดเดียวกัน
โดยเนื้อหาวนเวียนอยู่กับเรื่องบทบาททางเพศและความสัมพันธ์ระหว่างเพศ
อาจมีอารมณ์หลากหลายทั้งความรัก
ความแค้น และความทุกข์
การนำเสนอเรื่องราวนั้นจะพยายามทำให้ดูสมจริง
มีเหตุมีผล
ทั้งๆ ที่เนื้อเรื่องไม่ใช่เรื่องจริง
การพัฒนาตัวละครจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
และออกอากาศเป็นประจำ
ละครแบบนี้รู้จักในชื่อของ
Soap
Opera
ในขณะที่ละครประเภทอื่นแบ่งประเภทเพราะวิธีการจัดลำดับตอน
ละคร Sit-com
(Situation Comedy)
กลับมีความแตกต่างจากละครประเภทอื่นทั้งในแง่รูปแบบและเนื้อหา
 โดยละคร Sit-com
เป็นละครแนวสนุกสนานมีลักษณะล้อเลียนสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น
รูปแบบการนำเสนอที่แตกต่างจะละครประเภทอื่น
คือ ใช้รูปแบบที่ไม่สมจริง
Overact
ทั้งๆ
ที่เนื้อหาที่หยิบมานำเสนอมีพื้นฐานความเป็นจริง
ส่วนเนื้อหานั้นจะมีความหลากหลาย
มีความสัมพันธ์หลายรูปแบบ
หลายกลุ่มคน
และมีอารมณ์แบบขบขันเป็นพื้นฐาน
แม้ว่าจะมีอารมณ์อื่นๆ
แทรกเข้ามาก็ตาม
อย่างไรก็ตาม
หากมองวิธีการจัดลำดับตอนแล้ว
ละคร Sit
– com จะเป็นละครจบในแต่ละตอน
เหมือนละคร
Series
เนื่องจากใช้ตัวละครชุดเดียวกันและดำเนินเรื่องเร็วเพื่อให้จบได้ภายในเวลาที่กำหนดไว้อย่างสั้นๆ
 
3.
 รายการประเภทให้ความบันเทิงแบบ
Light
Entertainment  
เป็นกระบวนการทำงานที่ต้องการมาตรฐานความเป็นมืออาชีพ
ทั้งทางเทคนิคและความเชี่ยวชาญในการทำรายการ
เพื่อให้ได้รายการที่น่าสนใจ
อาจมีการนำเอาตัวบุคคลที่สังคมรู้จัก
 สนใจ หรือดารามานำเสนอเรื่องราวแบบต่างๆ
ที่ดึงดูดความสนใจของผู้ชมทุกระดับ
 ได้แก่  
3.1
รายการเกมโชว์
และแข่งขันตอบปัญหา
(Game
and Quiz Show)
รายการประเภทนี้เป็นรายการที่มีกิจกรรมเพื่อให้คนหรือกลุ่มคนได้ใช้ทักษะทางร่างกายหรือความสามารถทางสติปัญญา
และแสดงความสามารถนั้นออกมา
 โดยเป็นการแข่งขันกันระหว่าง
2
ฝ่ายขึ้นไป
ภายใต้กฎหรือกติกาตามที่ตกลงกันไว้
หากฝ่ายใดชนะจะได้รับรางวัล
ส่วนผู้แพ้จะได้รับรางวัลปลอบใจหรือถูกคัดออก
บริษัทที่มีชื่อเสียงในการผลิตรายการประเภทนี้ในประเทศไทย
ได้แก่
บริษัทเวอร์คพอยท์เอ็นเตอร์เทนเมนต์
3.2
รายการปกิณกะบันเทิงหรือวาไรตี้
(Variety
)
รายการปกิณกะบันเทิงหรือรายการวาไรตี้
เป็นรายการที่รวบรวมความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ
เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้ชมเป้าหมายที่หลากหลาย
ซึ่งมีความสนใจในการชมแตกต่างกันออกไป
 รูปแบบรายการจะมีทั้งการแสดงดนตรี
 ร้องเพลง  ละครสั้น
 เกม สาธิต
สนทนาและสัมภาษณ์ผู้ร่วมรายการ
หรือการแสดงอื่นๆ
 อยู่ในรายการ
 มีพิธีกรเป็นผู้ดำเนินรายการและสร้างสีสันให้กับรายการ
 
3.3
รายการสนทนา
(Talk)
รายการสนทนาเป็นรายการที่มีผู้พูดคุยกัน
2
คนขึ้นไป
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและซักถามซึ่งกันและกัน
เหตุที่รายการสนทนาได้รับความนิยม
เนื่องจากเป็นรายการที่ผู้ชมได้เห็นสีหน้า
อารมณ์ ความรู้สึกของผู้สนทนา
 ส่วนใหญ่แขกรับเชิญที่มาร่วมสนทนาจะเป็นผู้ที่มีชื่อเสียง
เป็นที่รู้จักในสังคม
ความสำเร็จของรายการขึ้นอยู่กับความสามารถของพิธีกรที่จะนำการสนทนาให้ราบรื่น
ไม่วกวน
 
อย่างไรก็ตาม
จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันรายการโทรทัศน์ใหม่ๆ
จะมีการผสมผสานคุณลักษณะและเอกลักษณ์ของรายการแต่ละประเภทเข้าด้วยกัน
เป็นลักษณะรายการลูกผสม
(Hybrid
programme) เช่น
รายการสารคดีประเภท
Docudrama
รายการประเภทนี้เป็นการผสมลักษณะของรายการประเภทสารคดีที่นำเสนอเรื่องราวเหตุการณ์จริงแต่มีลักษณะการดำเนินเรื่องคล้ายละคร
 หรือ รายการเรียลลิตี้โชว์
(Reality
show) ซึ่งเป็นรูปแบบรายการโทรทัศน์แนวใหม่ที่กำลังนิยมทั่วโลก
เป็นรายการที่นำเสนอความจริงที่เกิดขึ้นในรายการ
ในขณะที่การกระทำของผู้เข้าร่วมรายการที่แสดงปฏิกิริยาออกมาในรูปแบบที่ต่างกัน
ตั้งแต่ดีใจ
รักใคร่ จนถึงทะเลาะเบาะแว้ง
ตกใจหวาดกลัว
หรือ ผิดหวังเสียใจ
โดยเฉพาะธาตุแท้ทางอารมณ์ของแต่ละบุคคล
เมื่อประสบกับสถานการณ์หรือสิ่งเร้าที่ถูกสร้างขึ้นในรายการนั้น
เหมือนกับตัวละครที่เล่นไปตามบทละครโทรทัศน์
และการแข่งขันที่ดุเดือดเพื่อชิงรางวัลใหญ่ประเภทแพ้คัดลอกนั้น
ก็สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะของรายการเกมโชว์ได้เป็นอย่างดี
 อาจกล่าวได้ว่ารายการเรียลลิตี้โชว์
นั้นเป็นตัวอย่างสำคัญของรายการลูกผสมที่สะท้อนให้เห็นประเภทรายการโทรทัศน์ทั้งรายการประเภทที่เป็นเรื่องจริงและมีเนื้อหาสาระ
(Non-Fiction
/ Journalistic) รายการประเภทที่เป็นเรื่องแต่งขึ้นแบบละคร
(Fiction
/ Dramatic)  และรายการประเภทให้ความบันเทิงแบบ
Light
Entertainment   ได้อย่างลงตัว
บรรณานุกรม
Creeber
 Glen, The television genre book. bfi, 2001.
Jost
Francois, Introduction a l’analyse de la television.
Ellipses, 1999.
กาญจนา
 แก้วเทพ.
การวิเคราะห์สื่อแนวคิดและเทคนิค.
2547.
สื่อสารมวลชนเบื้องต้น
 สื่อมวลชน 
วัฒนธรรมและสังคม
ปนัดดา
 ธนสถิต (2531)
ละครโทรทัศน์ไทย,
 คณะนิเทศศาสตร์
จุฬาฯ.
อุษา
บิ้กกิ้นส์.
เอกสารคำสอนวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์
RT201.
 


